เฟอร์นิเจอร์ไม้ หนึ่งในวัสดุตกแต่งบ้านที่มีความหลากหลายในตัวเอง โดยไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ในปัจจุบันมีการใช้วัตถุดิบต่างๆมากมาย ทั้งวัตถุดิบที่ทำจากธรรมชาติ และวัตถุดิบแบบสังเคราะห์ ซึ่งไม้แต่ละชนิดก็มีข้อดี และข้อควรระวังที่แตกต่างกัน มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับชนิดของไม้ที่นิยมนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์กันดีกว่า
ไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ยอดนิยม 4 ประเภท ประกอบไปด้วย…
ไม้ปาติเกิล ผลิตมาจากการนำเศษไม้ขนาดเล็ก หรือ ที่เรียกว่า ขี้เลื่อย มาผ่านกรรมวิธีอัดบดเป็นแผ่น ผสมกาว และ ประสานกันผ่านกระบวนการทางเคมีจนได้แผ่นไม้ต่างขนาดกัน โดยไม้ที่นิยมทำไม้ปาติเกิล คือไม้ยางพารา เนื่องจากหาได้ง่ายและเนื้อไม้ดี ความหนาของไม้ที่นิยมใช้มาทำเฟอร์นิเจอร์ จะมีความหนาต่อแผ่นอยู่ที่ประมาณ 15 มม. และ 25 มม. โดยพื้นผิวด้านนอก ส่วนใหญ่จะนำไม้ปาติเกิลบอร์ดมาปิดผิวด้วยแผ่นฟอยล์ (Foil) หรือ แผ่นเมลามีน (Melamine) ก่อนการใช้งาน
ซึ่งไม้ชนิดนี้ถือเป็นไม้ที่คนนำมาทำเฟอร์นิเจอร์มากเป็นอันดับต้นๆ ด้วยราคาที่ไม่แพง และน้ำหนักที่เบา ทำให้ขนย้ายสะดวก แต่ในขณะเดียวกันไม้ชนิดนี้ไม่มีความแข็งแรงน้อยกว่าชนิดอื่นๆ เพราะการนำเศษไม้ที่ขนาดไม่เท่ากันมาอัด อาจจะทำให้มีอากาศแทรกอยู่ด้านในระหว่างช่องว่างของเศษขี้เลื่อยด้านใน และข้อควรระวังอีกอย่างคือควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำ เพราะอาจจะยุ่ยเปื่อยได้ แต่ถ้าวัสดุปิดผิวไม้มีความหนา ก็อาจจะพอช่วยได้บ้างเล็กน้อย ด้วยคุณลักษณะแบบนี้ จึงเหมาะสำหรับเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน หรือภายในบ้านหรือทั่วๆไปที่ไม่มีความชื้น อย่างเช่น โต๊ะทำงาน ตู้หนังสือ หรือ ชั้นวางของตกแต่ง
ไม้ MDF มีความคล้ายคลึงกับ ไม้ปาติเกิล (Particle Board) คือการเอาเศษขี้เลื่อยของไม้มาบดอัด แต่จะต่างกับไม้ปาติเกิลตรงที่ ไม้ MDF จะต้องผ่านกระบวนการอัดไม้ด้วยเครื่องบดอัดไม้เฉพาะที่มีแรงอัดสูงมาก พร้อมกับความร้อน ด้วยเครื่องจักรเฉพาะทาง จึงทำให้เป็นไม้ที่มีความหนาแน่นสูง โดยไม้ที่นิยมทำ MDF จะมีอยู่ 2 ชนิด คือไม้ยูคาลิปตัสและไม้ยางพารา ด้วยกระบวนการผลิตที่มีความละเอียด ซับซ้อนขนาดนี้ จึงทำให้เนื้อไม้ มีความแน่น ละเอียด ผิวเนียนมากกว่าไม้ปาร์ติเกิ้ล
ไม้ชนิดนี้นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ มีหลากหลายขนาดความหนา ตั้งแต่ 3 มม. ถึง 25 มม. กันเลยทีเดียว ขึ้นอยู่ว่าจะนำไปใช้ประกอบ หรือ รับน้ำหนักส่วนไหนของเฟอร์นิเจอร์ โดยพื้นผิวด้านนอก ของ ไม้ MDF สามารถปิดผิว ได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการปิดผิวด้วยกระดาษลายไม้ พีวีซี (PVC) ลามิเนต หรือ การพ่นสีทับ ซึ่งทำให้ได้งานไม้ที่มีความเรียบเนียนกว่างานไม้ปาติเกิล ขึ้นรูปได้สะดวก เจาะรูง่าย ทำออกมาเป็นชิ้นงานง่ายขึ้น เน้นเรื่องการทำสีเป็นส่วนใหญ่ โดยส่วนมากนิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ ทั้งลอยตัวและบิวท์อิน ไม่ว่าจะเป็น ตู้ โต๊ะ เตียง กรุผนัง หรือนำไปปิดผิว พ่นสี และใช้ในอุตสาหกรรมตกแต่ง รวมทั้งงานแกะสลักได้เกือบทุกชนิด
ไม้อัด ถือเป็นไม้ที่มัคุณภาพดีขึ้นมาอีกระดับ เป็นไม้ที่ได้จากการนำแผ่นไม้ธรรมชาติที่มีขนาดบาง (Veneer) หลายแผ่นมาประกอบอัดติดกันด้วยกาว มีกระบวนการผลิตแผ่นไม้บางจากการนำไม้ท่อนกลมขนาดใหญ่มาปอกผิวเนื้อไม้ออกเป็นแผ่นบางๆ และนำแต่ละแผ่นไปอบและรีดให้แห้งสนิท จึงนำมาประกอบติดกันเป็นชั้นๆ ด้วยกาว โดยชนิดกาวต่างๆที่ใช้มีผลกับการใช้งานของไม้อัด เช่นไม้อัดทั่วไปที่ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ในร่มมักใช้กาว Urea Formaldehyde ทั่วไป แต่ไม้อัดที่ใช้งานภายนอก หรืองานก่อสร้างที่ต้องโดนความชื้นมักนิยมใช้กาวกันน้ำ ไม่ชนิดนี้มีขนาดความหนามาตรฐานตั้งแต่ประมาณ 3 มม. ถึง 20 มม.
โดยคุณสมบัติของไม้อัดนั้น นอกจากจะมีความคงทน แข็งแรงแล้ว ยังมีคุณสมบัติพิเศษต่างๆ อย่างเช่น การกันน้ำ กันปลวก เป็นต้น เพราะกระบวนการการผลิตบางแห่งใช้กาวชนิดพิเศษในการยึดเนื้อมา ผสมกับน้ำยากันปลวก เข้าไปในแต่ละชั้นของไม้ และอาจจะมีการทาน้ำยาพิเศษเคลือบด้านนอกอีกด้วย เพราะฉะนั้นไม้ชนิดนี้จึงมีราคาสูงกว่าไม้ปาติเกิล และไม้ MDF ด้วยความที่แผ่นไม้อัดมีความหนาแน่นสูง ผิวเรียบสวยจึงเหมาะกับการนำไปใช้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ส่วนด้านนอกที่ต้องแสดงความเรียบสวยของแผ่นไม้ โดยแผ่นไม้อัดนั้น มีแบ่งเป็นชนิดต่างๆ ตามการใช้งาน อย่างเช่น ไม้อัดปิดผิววีเนียร์ตกแต่ง ไม้อัดก่อสร้าง ไม้อัดเกรดเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
ไม้จริง (Wood) คือเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ทำมาจากต้นไม้จริง เป็นไม้เนื้อเดียวจากธรรมชาติที่ไม่ได้ถูกนำมาบด หรือบีบอัดเหมือนไม้ชนิดอื่นๆก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงมีความทนทานที่สูงมากหากมีการบำรุงรักษา อีกทั้งยังมีลวดลายธรรมชาติที่สวยเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างของแต่ละชิ้นไม้ โดยไม้จริงสามารถแยกออกได้หลากหลายชนิด เนื้อไม้ และอายุของไม้มีความแตกต่างกันมากในเรื่องของราคา และการนำมาใช้ โดยไม้ที่นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์คือ ไม้ยางพารา, ไม้แดง, ไม้ประดู่ เป็นต้น
รู้แบบนี้แล้ว คุณเลือกถูกหรือยังว่าควรเลือกใช้ไม้แบบไหน กับเฟอร์นิเจอร์ประเภทใด ถ้ายังไม่แน่ใจ ไม่ต้องห่วงเลย เพราะเอกซ์เซลเลนซ์ฟอร์ม (Excellenceform) พร้อมเป็นที่ปรึกษาให้กับคุณ เพราะคุณควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด สนใจติดต่อและปรึกษาเราได้ที่เบอร์ 02-370-2635 หรือแอดไลน์มาคุยกันได้ที่ Line ID: @excellenceform นะครับ